วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย. 2021

บอลยูโร 2020 อิตาลี vs ออสเตรีย

อิตาลี VS ออสเตรีย

สนาม : เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เวลา : 02.00 น.

อิตาลี

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ชนะ ลิทัวเนีย 2-0 (เยือน)
ชนะ ซาน มาริโน 7-0 (เหย้า)
ชนะ ตุรกี 3-0 (ยูโร 2020)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 (ยูโร 2020)
ชนะ เวลส์ 1-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ จะปรับทัพจากนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่เฉือนชนะ เวลส์ 1-0 เพราะโรเตชั่นให้นักเตะสำรองลงสนามถึง 8 คนเลยทีเดียว จึงได้ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ จากการคว้าชัย 3 นัดรวด และไร้พ่ายแพ้จากการลงเล่นในทุกรายการมาแล้วถึง 30 เกมซ้อน แถมยังเก็บ “คลีนชีท” ไม่เสียประตูมาแล้วถึง 11 เกมติดต่อกันเลยด้วย เพื่อให้พวกแข้งหลักกลับมาลงสนามตามแผนนการเล่นแบบ 4-3-3 เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงให้ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม

ส่วนแนวรับยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ มีปัญหาบาดเจ็บที่ต้นขา หากลงเล่นไม่ได้จะให้ ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้ ลงไปยืนคู่กับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ส่วนแบ็กขวายังต้องรอดูสภาพร่างกายของ อเล็กซานโดร ฟลอเรนซี่ ที่เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน หากไม่พร้อมลงสนามจะให้ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ยืนคนละข้างกับ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า แดนกลางพร้อมให้ มานูเอล โลคาเตลลี่ กับ จอร์จินโญ่ กลับมายืนคุมเกมร่วมกัน ส่วนอีกหนึ่งที่ว่างยังต้องรอชั่งใจเลือกระหว่าง นิโกโล่ บาเรลล่า หรือ มาร์โก แวร์รัตติ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาลงเล่นในนัดก่อนได้ดีเลย แนวรุกพร้อมกลับมาใช้ 3 ประสาน โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ยืนเป็นตัวริมเส้นคนละด้านกับ ลอเรนโซ อินซิเญ่ และวาง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ยืนค้ำในตำแหน่งหัวหอก หลังได้พักกันมาแบบเต็มๆ เพราะถูกดร็อปจากเกมนัดก่อน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า
แนวรับ : ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า
แดนกลาง : มานูเอล โลคาเตลลี่, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ
แนวรุก : ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, ชิโร่ อิมโมบิเล่, โดเมนิโก้ เบราร์ดี้

ออสเตรีย

ผลงาน 5 เกมหลังสุด
แพ้ เดนมาร์ก 0-4 (เหย้า)
แพ้ อังกฤษ 0-1 (เยือน)
ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 3-1 (ยูโร 2020)
แพ้ ฮอลแลนด์ 0-2 (ยูโร 2020)
ชนะ ยูเครน 1-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ ฟรานโก้ โฟด้า จะปรับทัพจากนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่เฉือนชนะ ยูเครน 1-0 จึงได้ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ซี โดยพวกแข้งหลักยังพร้อมลงสนามทั้งหมดตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยังคงใช้ ดาเนี่ยล บัคมันน์ ยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับจะให้ อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช ยืนคู่กับ มาร์ติน ฮินเทเรกเกอร์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งเป็นหน้าที่ของ สเตฟาน ไลเนอร์ กับ อันเดรียส อุลเมอร์ แดนกลางน่าจะวาง สเตฟาน อิลซานเกอร์ คุมเกมคู่กับ ฟลอเรียน กริลลิทช์ และให้ มาร์เซล ซาบิทเซอร์ สวมบทเป็นจอมทัพคอยเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ แนวรุกน่าจะขยับ ดาวิด อลาบา ขึ้นมายืนเป็นปีกซ้ายคนละฝั่งกับ ซาเวอร์ ชลาเกอร์ แต่ยังมี คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์ กับ คอนราด ไลเมอร์ เป็นตัวสอดแทรกที่พร้อมถูกส่งลงสนามตั้งแต่นาทีแรกได้เหมือนกัน ส่วนกองหน้าตัวเป้าจะดร็อป ซาซ่า คาลัดซิช เพื่อให้ มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช ยืนค้ำเพียงคนเดียวเท่านั้น

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : ดาเนี่ยล บัคมันน์
แนวรับ : มาร์ติน ฮินเทเรกเกอร์, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, สเตฟาน ไลเนอร์, อันเดรียส อุลเมอร์
แดนกลาง : สเตฟาน อิลซานเกอร์, ฟลอเรียน กริลลิทช์, มาร์เซล ซาบิทเซอร์
แนวรุก : ดาวิด อลาบา, ซาเวอร์ ชลาเกอร์, มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง อิตาลี vs ออสเตรีย

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 35 นัด ปรากฎว่า อิตาลี มีสถิติเหนือกว่าจากการเป็นฝ่ายชนะ 16 เกม เสมอ 8 เกม และแพ้ 11 เกม โดย 13 เกมหลังสุดที่เจอกันไม่เคยพลาดท่าแพ้ให้เลยด้วย ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในนัดกระชับมิตร เมื่อปี 2008 ปรากฎว่า เสมอในบ้านของ อิตาลี 2-2 เพราะถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ไปแล้ว หลังโชว์ฟอร์มสุดแกร่งจากการเก็บชัยในรอบแบ่งกลุ่มได้ทุกนัด ทำให้ อิตาลี พร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน แม้จะต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ 2 ตัวหลักในแนวรับ แต่ยังมีขุมกำลังนักเตะที่แข็งแกร่งมากๆ

ส่วน ออสเตรีย เป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้แบบวูบวามเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกตัวริมเส้นที่พร้อมเติมเกมได้แบบไม่มีหมดแรง แต่มักจะมีปัญหาในยามเผชิญหน้ากับทีมใหญ่ๆ เพราะจะพลาดท่าให้กับทีมที่มีศักยภาพเหนือกว่าอยู่เป็นประจำ ดูได้จากเกมในแบ่งกลุ่มที่เป็นฝ่ายปราชัยให้กับ ฮอลแลนด์ 0-2 ขณะที่ อิตาลี ยังคงอยู่ในช่วงที่มีความมั่นใจแบบสุดขีด และพร้อมให้พวกแข้งหลักกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย ซึ่งรวมถึง มานูเอล โลคาเตลลี่ กองกลางฟอร์มแจ่มที่แจ้งเกิดได้แบบเต็มตัวเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น อิตาลี น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยได้แบบไม่ยากเย็นนัก

ผลที่คาด – อิตาลี ชนะ ออสเตรีย 2-0

บอลยูโร 2020 ฮอลแลนด์ VS สาธารณรัฐเช็ก

ฮอลแลนด์ VS สาธารณรัฐเช็ก

สนาม : ปุสกัส อารีน่า, กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

เวลา : 23.00 น.

ฮอลแลนด์

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

เสมอ สกอตแลนด์ 2-2 (สนามเป็นกลาง)

ชนะ จอร์เจีย 3-0 (เหย้า)

ชนะ ยูเครน 3-2 (ยูโร 2020)

ชนะ ออสเตรีย 2-0 (ยูโร 2020)

ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 3-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ แฟรงค์ เดอ บัวร์ จะปรับทัพจากเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 3-0 หลังผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม ซี จากการเก็บชัยได้ 3 นัดรวด จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-1-2 เพราะเพิ่งโรเตชั่นให้นักเตะสำรองลงสนามในนัดก่อน โดยผู้รักษาประตูจะให้ มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับส่อดร็อป ยูร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังดาวรุ่ง และอาจจะให้ ดาลีย์ บลินด์ ลงไปยืนร่วมกับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ และ สเตฟาน เดอ ไฟร์จ แดนกลางพร้อมให้ มาร์เท่น เดอ รอน ลงไปคุมเกมร่วมกับ เฟรงกี้ เดอ ยอง อีกครั้ง ส่วนฟูลแบ็กฝั่งซ้ายอาจให้ พาทริค ฟาน อานโฮลท์ ลงไปยืนคนละข้างกับ เดนเซล ดัมฟรีส์ แนวรุกพร้อมวาง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ยืนเป็นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังคู่กองหน้าที่จะให้ วูต เวกฮอร์สท กลับมายืนล่าตาข่ายคู่กับ เมมฟิส เดปาย เนื่องจาก ลุค เดอ ยอง ได้รับบาดเจ็บจนต้องขอถอนตัวออกไปแล้ว

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก

แนวรับ : ดาลีย์ บลินด์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, สเตฟาน เดอ ไฟร์จ,

แดนกลาง : พาทริค ฟาน อานโฮลท์, เดนเซล ดัมฟรีส์, มาร์เท่น เดอ รอน, เฟรงกี้ เดอ ยอง

แนวรุก : จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เมมฟิส เดปาย, วูต เวกฮอร์สท

สาธารณรัฐเช็ก

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

แพ้ อิตาลี 0-4 (เยือน)

ชนะ แอลเบเนีย 3-1 (เหย้า)

ชนะ สกอตแลนด์ 2-0 (ยูโร 2020)

เสมอ โครเอเชีย 1-1 (ยูโร 2020)

แพ้ อังกฤษ 0-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ จะปรับทัพจากเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่แพ้ อังกฤษ 0-1 หลังผ่านเข้ารอบมาจากการเป็นหนึ่งในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด แม้จะมี 4 คะแนน เท่ากับ โครเอเชีย ทีมร่วมกลุ่ม ดี แต่มีผลประตูที่ยิงได้น้อยกว่า จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมดเลย เริ่มจากผู้รักษาประตูจะให้ โทมัส วาคลิก สวมบทเป็นมือหนึ่งยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับยังคงให้ ออนเดรจ์ เซลุสต์ก้า ยืนคู่กับ โทมัส คาลาส ส่วนฟูลแบ็กฝั่งซ้ายหมดสิทธิ์ใช้งาน แยน โบริล ติดโทษแบน จึงน่าจะให้ อเลส มาเตจ์อู ลงไปยืนคนละฝั่งกับ วลาดิเมียร์ คูฟาล แดนกลางวาง โทมัส ซูเช็ก คุมเกมคู่กับ โทมัส โฮเลส และให้ วลาดิเมียร์ ดาริด้า คอยเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ในตำแหน่งจอมทัพ แนวรุกยังคงให้ ลูคัส มาโซปุสต์ ทำหน้าที่เป็นปีกขวาคนละด้านกับ ยาคุบ ยังค์โก้ ส่วนหัวหอกยังคงใช้ พาทริค ชิก ยิงประตูไปแล้ว 3 ลูก

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : โทมัส วาคลิก

แนวรับ : อองเดร์จ เซลุสต์ก้า, โทมัส คาลาส, อเลส มาเตจ์อู, วลาดิเมียร์ คูฟาล

แดนกลาง : วลาดิเมียร์ ดาริด้า, โทมัส โฮเลส, โทมัส ซูเซ็ก

แนวรุก : พาทริค ชิก, ลูคัส มาโซปุสต์, ยาคุบ ยังค์โต้

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง ฮอลแลนด์ VS สาธารณรัฐเช็ก

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 11 นัด ปรากฎว่า ฮอลแลนด์ มีสถิติเป็นรองอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 3 เกม เสมอ 3 เกม และแพ้ 5 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2015 ปรากฎว่า ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 2-3 แม้จะทำผลงานในช่วงก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ ฮอลแลนด์ กลับโชว์ฟอร์มในช่วงเข้าสู่การแข่งขันจริงๆ ได้แบบน่าประทับใจจากการคว้าชัยได้ 3 เกมซ้อน ส่วน สาธารณรัฐเช็ก เล่นได้ดีตามศักยภาพที่มีอยู่ และสามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ โดยตอนนี้ ฮอลแลนด์ มีแนวรุกที่ลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และมี จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม สวบทเป็นตัวปั้นเกมที่พร้อมเติมขึ้นไปช่วยยิงประตูจากแถวสองได้แล้วถึง 3 ประตู ส่วน สาธารณรัฐเช็ก ยังคงมี พาทริค ชิก เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้าจากการสอยตาข่ายไปแล้ว 3 ลูก หากจะว่าไปแล้ว ฮอลแลนด์ มีสภาพทีมที่แข็งแกร่งมากกว่า จึงน่าจะคว้าชัยเพื่อเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สูงมาก     

ผลที่คาด – ฮอลแลนด์ ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1

ดูผลบอลยูโร 2020 และ โปรแกรมการแข่งขัน คลิกเลย

คอมเมนต์

Leave a Comment