วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันพุธที่ 23 มิ.ย. 2021

บอลยูโร 2020 สาธารณรัฐเช็ก vs อังกฤษ

สาธารณรัฐเช็ก VS อังกฤษ

สนาม : เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เวลา : 02.00 น.

สาธารณรัฐเช็ก

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

แพ้ เวลส์ 0-1 (เยือน)

แพ้ อิตาลี 0-4 (เยือน)

ชนะ แอลเบเนีย 3-1 (เหย้า)

ชนะ สกอตแลนด์ 2-0 (ยูโร 2020)

เสมอ โครเอเชีย 1-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เสมอ โครเอเชีย 1-1 เพื่อลุ้นคว้าชัยลอยลำเป็นแชมป์กลุ่มไปเลย แต่ถ้าลงเอยด้วยผลเสมอจะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มด้วยเช่นกัน เพราะตอนนี้รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม มี 4 คะแนนจาก 2 นัด เท่ากับ อังกฤษ แต่มีผลต่างประตูได้เสียมากกว่าหนึ่งลูก จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 เริ่มจากผู้รักษาประตูจะให้ โทมัส วาคลิก สวมบทเป็นมือหนึ่งต่อไป แนวรับยังคงให้ โทมัส คาลาส ยืนคู่กับ ออนเดรจ์ เซลุสต์ก้า ส่วนแบ็กขวาจะให้ วลาดิเมียร์ คูฟาล ยืนคนละฝั่งกับ แยน โบริล แดนกลางวาง โทมัส โฮเลส คุมเกมคู่กับ โทมัส ซูเช็ก และให้ วลาดิเมียร์ ดาริด้า สวมบทเป็นจอมทัพคอยเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ แนวรุกพร้อมให้ ยาคุบ ยังค์โก้ ทำหน้าที่เป็นปีกซ้ายคนละด้านกับ ลูคัส มาโซปุสต์ ส่วนกองหน้ายังคงใช้ พาทริค ชิก ยิงไปแล้ว 3 ประตู

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : โทมัส วาคลิก

แนวรับ : อองเดร์จ เซลุสต์ก้า, โทมัส คาลาส, วลาดิเมียร์ คูฟาล, แยน โบริล

แดนกลาง : โทมัส โฮเลส, โทมัส ซูเซ็ก,วลาดิเมียร์ ดาริด้า

แนวรุก : ลูคัส มาโซปุสต์, ยาคุบ ยังค์โต้, พาทริค ชิก

อังกฤษ

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ โปแลนด์ 2-1 (เหย้า)

ชนะ ออสเตรีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ โรมาเนีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ โครเอเชีย 1-0 (ยูโร 2020)

เสมอ สก็อตแลนด์ 0-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เสมอ สก็อตแลนด์ 0-0 เพื่อลุ้นเก็บชัยเข้ารอบแล้วได้ยึดแชมป์กลุ่มทันที แต่ถ้าลงเอยด้วยผลเสมอจะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม เพราะตอนนี้รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม มี 4 คะแนนจาก 2 นัด เท่ากับ สาธารณรัฐเช็ก แต่มีผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่าลูกเดียว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนเฝ้าเสาต่อไปแนวรับอาจดร็อป ไทรอน มิงค์ส เพื่อให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กัปตันทีมที่เพิ่งหายเจ็บพร้อมฟิตกลับมายืนคู่กับ จอห์น สโตนส์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งน่าจะใช้ ลุค ชอว์ กับ ไคล์ วอล์กเกอร์ แดนกลางอาจพัก คัลวิน ฟิลลิปส์ เพื่อเปิดทางให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมายืนคุมเกมคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ และอาจจะให้ แจ็ค กรีลิช ลงไปสวมบทเป็นจอมทัพคอยเชื่อมบอลจากแผงมิดฟิลด์ด้วย แนวรุกส่อดร็อป ฟิล โฟเด้น รวมถึง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และอาจจะขยับ เมสัน เมาท์ ไปยืนเป็นปีกขวาคนละด้านกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วนกองหน้ายังคงใช้ แฮร์รี่ เคน เหมือนเดิม   

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด

แนวรับ : แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์, ลุค ชอว์, ไคล์ วอล์กเกอร์

แดนกลาง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดีแคลน ไรซ์, แจ็ค กรีลิช

แนวรุก : เมสัน เมาท์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, แฮร์รี่ เคน

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง สาธารณรัฐเช็ก VS อังกฤษ

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 4 นัด ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 2 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 1 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2019 ปรากฎว่า สาธารณรัฐเช็ก เปิดบ้านเฉือนชนะ 2-1 หากดูจากฟอร์มการเล่นนัดล่าสุดต้องบอกว่า อังกฤษ ทำผลงานได้แบบผิดหวัง เพราะมีศักยภาพในเรื่องของผู้เล่นที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับทำได้เพียงแค่ผลเสมอ และดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องเกมรุกที่ยังดูไม่ลงตัวเสียเท่าไรนัก จึงน่าจะเป็นโอกาสของพวกแข้งดังที่เตรียมได้ลุกจากนั่งม้าสำรองลงไปโชว์ฝีเท้าบ้าง ไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ รวมถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เพื่อลุ้นเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาให้ได้ ส่วน สาธารณรัฐเช็ก ทำผลงานใน 2 เกมแรกได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะ พาทริค ชิก ซึ่งพร้อมฉกฉวยโอกาสยิงประตูได้ทุกเมื่อเลย ดังนั้นเกมคู่นี้มีโอกาสลงเอยด้วยผลเสมอได้เหมือนกัน และน่าจะมีโอกาสกอดคอผ่านเข้ารอบไปด้วยกันได้สูงมาก  

ผลที่คาด – สาธารณรัฐเช็ก เสมอ อังกฤษ 1-1

บอลยูโร 2020 โครเอเชีย vs สก็อตแลนด์

โครเอเชีย VS สก็อตแลนด์

สนาม : แฮมป์เดน ปาร์ค, เมืองกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์

เวลา : 02.00 น.

โครเอเชีย

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ มอลตา 3-0 (เหย้า)

เสมอ อาร์เมเนีย 1-1 (เหย้า)

แพ้ เบลเยี่ยม 0-1 (เยือน)

แพ้ อังกฤษ 0-1 (ยูโร 2020)

เสมอ สาธารณรัฐเช็ก 1-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เสมอ สาธารณรัฐเช็ก 1-1 เพื่อลุ้นคว้าชัยเป็นนัดแรกแล้วผ่านเข้ารอบไปเลย แต่จะเป็นในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย เพราะตอนนี้อยู่อันดับ 3 มีเพียงหนึ่งคะแนน เท่ากับ สก็อตแลนด์ แต่มีผลต่างประตูได้เสียมากกว่าหนึ่งลูก ถ้าเสมอหรือแพ้จะตกรอบทันที จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 โดยพวกแข้งเก๋าจากทีมชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย เริ่มจากผู้รักษาประตูจะใช้ ดมินิก ลิวาโควิช ยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับยังคงให้ ดูเย่ คาเลต้า-คาร์ ยืนคู่กับ โดมากอย วิด้า ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองข้างยังเป็นหน้าที่ของ บอร์น่า บาริซิช กับ ซิเม่ เวอร์ซัลโก้ แดนกลางวาง มาร์เซโล่ โบรโซวิช คุมเกมคู่กับ ลูก้า โมดริช และอาจจะถอย อังเดร ครามาริช จากกองหน้าให้ลงไปสวมบทเป็นจอมทัพคอยเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ ส่วนแนวรุกน่าจะให้ โจเซฟ เบรโกโล่ ยืนเป็นปีกซ้ายคนละฝั่งกับ อีวาน เปริซิช และให้ อันเต้ เรบิช ยืนค้ำเป็นหัวหอกเพียงคนเดียว    

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : โดมินิก ลิวาโควิช

แนวรับ : ดูเย่ คาเลต้า-คาร์, โดมากอย วิด้า, บอร์น่า บาริซิช, ซิเม่ เวอร์ซัลโก้

แดนกลาง : ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, อังเดร ครามาริช

แนวรุก : โจเซฟ เบรโกโล่, อีวาน เปริซิช, อันเต้ เรบิช

สก็อตแลนด์

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

เสมอ อิสราเอล 1-1 (เยือน)

ชนะ หมู่เกาะแฟโร 4-0 (เหย้า)

เสมอ ฮอลแลนด์ 2-2 (สนามเป็นกลาง)

แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 0-2 (ยูโร 2020)

เสมอ อังกฤษ 0-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ สตีฟ คลาร์ก จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่เสมอ อังกฤษ 0-0 เพื่อลุ้นคว้าชัยนัดแรกแล้วจะได้ผ่านเข้ารอบในทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นครั้งแรกเลยด้วย หลังจากที่เคยจอดป้ายเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มมาโดยตลอด ส่วนจะเป็นในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย เพราะตอนนี้รั้งอันดับ 4 มีแต้มเดียว เท่ากับ โครเอเชีย แต่มีผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่าหนึ่งลูก หากลงเอยเสมอหรือแพ้จะตกรอบทันที จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยังคงให้ เดวิด มาร์เชลล์ ยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรก ส่วนแนวรับอาจให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ขยับจากตำแหน่งมิดฟิลด์ลงมายืนเป็นกองหลังเหมือนนัดก่อนร่วมกับ คีแรน เทียร์นีย์ และ แกรนท์ ฮันลีย์ แดนกลางน่าจะให้ บิลลี่ กิลมอร์ แข้งดาวรุ่งที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมจากนัดที่แล้วลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ จอห์น แม็คกินน์ และ คัลลัม แม็คเกรกอร์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งเป็นหน้าที่ของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับ สตีเฟ่น โอ ดอนเนลล์ แนวรุกพร้อมให้ ลินดอน ไดค์ส ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เช อดัมส์  

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : เดวิด มาร์เชลล์

แนวรับ : คีแรน เทียร์นีย์, แกรนท์ ฮันลีย์, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

แดนกลาง : บิลลี่ กิลมอร์, จอห์น แม็คกินน์, คัลลัม แม็คเกรกอร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, สตีเฟ่น โอ ดอนเนลล์

แนวรุก : ลินดอน ไดค์ส, เช อดัมส์

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง โครเอเชีย vs สก็อตแลนด์

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 5 นัด ปรากฎว่า โครเอเชีย มีสถิติเป็นรองแบบไม่น่าเชื่อ เพราะไม่เคยเป็นฝ่ายชนะเลย โดย สก็อตแลนด์ เป็นชนะ 2 เกม และเสมอด้วยผลเสมออีก 2 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกฟุตบอล 2014 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2013 ปรากฎว่า โครเอเชีย บุกไปแพ้ 0-2 แม้จะเล่นได้ตามต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรเป็น แต่ โครเอเชีย ยังพอจะให้พวกแข้งเก๋าชาวพาทีมเอาตัวรอดไปได้ในหลายๆ เกม ส่วน สก็อตแลนด์ ทำผลงานในเกมนัดก่อนได้น่าประทับใจมากๆ แต่ยังมีปัญหาเรื่องของสไตล์การเล่นที่ออกบอลกันค่อนข้างช้าไปตามศักยภาพของตัวผู้เล่นที่ไม่มีพวกจัดจ้านให้ใช้งานเลย ดังนั้น โครเอเชีย พร้อมให้นักเตะที่มีความเร็วสูงวิ่งไล่กดดันแนวรับของทีมฝั่งตรงข้ามอย่างแน่นอน จึงอยู่ที่ สก็อตแลนด์ จะสามารถต้านทานเอาไว้ได้ตลอดทั้งเกมหรือไม่ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่เพื่อลุ้นคว้าชัยผ่านเข้ารอบไปด้วย คาดว่า โครเอเชีย น่าจะฉกฉวยโอกาสจากจังหวะความผิดพลาดของทีมคู่แข่งเอาไว้ได้ และเก็บ 3 คะแนนเต็มเป็นนัดแรกแล้วผ่านเข้ารอบไปเลย      

ผลที่คาด – โครเอเชีย ชนะ สก็อตแลนด์ 1-0

บอลยูโร 2020 สโลวาเกีย vs สเปน

สโลวาเกีย VS สเปน

สนาม : เอสตาดิโอ ลา คาร์ตูฆ่า, เมืองเซบีญ่า ประเทศสเปน

เวลา : 23.00 น.

สโลวาเกีย

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ รัสเซีย 2-1 (เหย้า)

เสมอ บัลแกเรีย 1-1 (สนามเป็นกลาง)

เสมอ ออสเตรีย 0-0 (เยือน)

ชนะ โปแลนด์ 2-1 (ยูโร 2020)

แพ้ สวีเดน 0-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ สเตฟาน ทาร์โควิช จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่แพ้ สวีเดน 0-1 เพื่อลุ้นคว้าชัยผ่านเข้ารอบไปเลย แต่ถ้าเสมอหรือแพ้จะต้องดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนจะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม, รองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง สวีเดน กับ โปแลนด์ กันเสียก่อน เพราะตอนนี้รั้งอันดับ แข่ง 2 นัด มี 3 คะแนน จึงพร้อมผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงให้ มาร์ติน ดูบราฟก้า สวมบทเป็นมือหนึ่งต่อไป แนวรับยังคงใช้ มิลาน สคริเนียร์ ยืนคู่กับ ลูโบเมียร์ ซัตก้า ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งเป็นหน้าที่ของ โทมัส ฮูโบคาน กับ ปีเตอร์ เปการิค แดนกลางวาง ยูราจ์ คูชก้า ยืนคุมเกมคู่กับ พาทริค โฮซอฟสกี้ แนวรุกยังคงให้ มาเร็ค ฮัมซิก สวมบทเป็นจอมทัพคอยเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ และวาง มาร์ติน คอสเซลนิก ยืนเป็นปีกขวาคนละฝั่งกับ โรเบิร์ต มัค ส่วนกองหน้ายังคงใช้ อองเดร์จ ดูด้า เพียงคนเดียว  

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : มาร์ติน ดูบราฟก้า

แนวรับ : ปีเตอร์ เปการิค, โทมัส ฮูโบคาน, ลูโบเมียร์ ซัตก้า, มิลาน สคริเนียร์

แดนกลาง : ยูราจ์ คูชก้า, พาทริค โฮซอฟสกี้, มาเร็ค ฮัมซิก, มาร์ติน คอสเซลนิก, โรเบิร์ต มัค

แนวรุก : อองเดร์จ ดูด้า

สเปน

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ โคโซโว 3-1 (เหย้า)

เสมอ โปรตุเกส 0-0 (เหย้า)

ชนะ ลิทัวเนีย 4-0 (เหย้า)

เสมอ สวีเดน 0-0 (ยูโร 2020)

เสมอ โปแลนด์ 1-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่เสมอ โปแลนด์ 1-1 โดยจะต้องคว้าชัยให้ได้เป็นอันดับแรกเพื่อผ่านเข้ารอบ เพราะตอนนี้มีเพียงแค่ 2 แต้มจากผลเสมอ 2 เกมรวด แต่ถ้าเสมอหรือแพ้จะต้องดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนจะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม, รองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง สวีเดน กับ โปแลนด์ ด้วยเช่นกัน จึงพร้อมจัดทัพชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะใช้ อูไน ซิมอน ยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับพร้อมวาง อายเมริก ลาปอร์ก ยืนคู่กับ เปา ตอร์เรส ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งน่าจะเป็นหน้าที่ของ มาร์กอส ยอเรนเต้ กับ ฆอร์ดี้ อัลบา แดนกลางน่าจะให้ เซร์คิโอ บุสเกตส์ กัปตันทีมที่เพิ่งหายป่วยโควิด-19 กลับมายืนคุมเกมร่วมกับ โกเก้ และ ติอาโก้ อัลคานทาร่า แนวรุกน่าจะยังไว้วางใจ อัลบาโร่ โมราต้า ให้ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า เพื่อประสานงานกับ เกราร์ด โมเรโน่ และ ดานี่ โอลโม่ แม้จะถูกโจมตีเรื่องฟอร์มการเล่นว่าสุดฝืดจากการพลาดโอกาสในจังหวะง่ายๆ อยู่เป็นประจำเลยก็ตาม    

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : อูไน ซิมอน

แนวรับ : อายเมริก ลาปอร์ก, เปา ตอร์เรส, มาร์กอส ยอเรนเต้, ฆอร์ดี้ อัลบา

แดนกลาง : เซร์คิโอ บุสเกตส์, โกเก้, ติอาโก้ อัลคานทาร่า

แนวรุก : อัลบาโร่ โมราต้า, เกราร์ด โมเรโน่, ดานี่ โอลโม่

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง สโลวาเกีย vs สเปน

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 6 นัด ปรากฎว่า สเปน มีสถิติเหนือกว่า โดยเป็นฝ่ายชนะ 4 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 1 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2015 ปรากฎว่า สเปน เปิดบ้านชนะ 2-0

ผลที่คาด – สโลวะเกีย แพ้ สเปน 1-2 

บอลยูโร 2020 สวีเดน vs โปแลนด์

สวีเดน VS โปแลนด์

สนาม : เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

เวลา : 23.00 น.

สวีเดน

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ เอสโตเนีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 (เหย้า)

ชนะ อาร์เมเนีย 3-1 (เหย้า)

เสมอ สเปน 0-0 (ยูโร 2020)

ชนะ สโลวะเกีย 1-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ แยนน์ อันเดอร์สสัน จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่ชนะ สโลวะเกีย 1-0 โดยหวังเก็บชัยแล้วลุ้นเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ถ้าเสมอจะต้องดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนจะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง สเปน กับ สโลวะเกีย กันเสียก่อน และถ้าแพ้จะตกรอบไปเลย เพราะตอนนี้รั้งอันดับ แข่ง 2 นัด มี 4 คะแนน จึงพร้อมให้พวกนักเตะตัวหลักลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-4-2 เริ่มจากผู้รักษาประตูจะให้ โรบิน โอลเซ่น ยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับยังคงมี มาร์คัส ดาเนียลสัน ยืนคู่กับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ เอมิล คราฟธ์ กับ ลุดวิก ออกุสตินส์สัน แดนกลางยังคงมี คริสตอฟเฟอร์ โอลส์สัน พร้อมยืนคุมเกมคู่กับ เซบาสเตียน ลาร์สสัน และน่าจะวาง วิคเตอร์ คลาเอสสัน สวมบทเป็นปีกริมเส้นคนละด้านกับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ส่วนแนวรุกยังคงใช้คู่กองหน้า อเล็กซานเดอร์ ไอซัค กับ มาร์คัส เบิร์ก แม้จะได้ เดยัน คูลูเชฟสกี้ หายป่วยจากโควิด-19 กลับมาให้ใช้งานเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกก็ตาม

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : โรบิน โอลเซ่น

แนวรับ : เอมิล คราฟธ์, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, มาร์คัส ดาเนียลสัน, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน

แดนกลาง :  วิคเตอร์ คลาเอสสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คริสตอฟเฟอร์ โอลส์สัน, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก

แนวรุก : อเล็กซานเดอร์ ไอซัค, มาร์คัส เบิร์ก

โปแลนด์

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

แพ้ อังกฤษ 1-2 (เยือน)

เสมอ รัสเซีย 1-1 (เหย้า)

เสมอ ไอซ์แลนด์ 2-2 (เหย้า)

แพ้ สโลวะเกีย 1-2 (ยูโร 2020)

เสมอ สเปน 1-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ เปาโล ซูซ่า จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่เสมอ สเปน 1-1 และต้องเก็บชัยชนะให้ได้เท่านั้น เพื่อจะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เพราะตอนนี้มีเพียงแค่แต้มเดียว ส่วนจะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม, รองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง สเปน กับ สโลวะเกีย กันอีกครั้ง จึงพร้อมขนแข้งหลักลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-1-2 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะใช้ วอจเชียค เชสนี่ ยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับจะให้ บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้ ยืนร่วมกับ คามิล กลิค และ แยน เบดนาเร็ค แดนกลางจะได้ เกรเซกอร์ซ ครีโชเวียค พ้นติดโทษแบนจากการโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนัดแรก เพื่อให้กลับมาคุมเกมคู่กับ มาเตอุสซ์ คลิช และให้ ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ เป็นตัวเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองข้างจะเป็นหน้าที่ของ คามิล จอซเวียค กับ มาเซียจ รีบาส แนวรุกน่าจะให้ คาโรล สวีเดอร์กี้ ลงไปยืนค้ำแดนหน้าคู่กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้    

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : วอจเชียค เชสนี่

แนวรับ : บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้, คามิล กลิค, แยน เบดนาเร็ค

แดนกลาง : เกรเซกอร์ซ ครีโชเวียค, มาเตอุสซ์ คลิช, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้, คามิล จอซเวียค, มาเซียจ รีบาส

แนวรุก : คาโรล สวีเดอร์กี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้    

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง สวีเดน vs โปแลนด์

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 26 นัด ปรากฎว่า สวีเดน มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 14 เกม เสมอ 4 เกม และแพ้ 8 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตร เมื่อปี 2004 ปรากฎว่า สวีเดน เปิดบ้านชนะ 3-1

ผลที่คาด – สวีเดน ชนะ โปแลนด์ 2-1

อ่านบทวิเคราะห์ เยอรมนี VS ฮังการี และ โปรตุเกส VS ฝรั่งเศส คลิกที่นี่

ไปหน้าบอลยูโร 2020

คอมเมนต์

Leave a Comment