วิเคราะห์บอลยูโร 2020 กลุ่ม A:
ตุรกี, อิตาลี, เวลส์, สวิตเซอร์แลนด์
ตุรกี : ต้องปัดฝุ่นดึงตัว เซนอล กูเนส อดีตกุนซือชุดคว้าอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลโลก 2002 ให้กลับมาทำหน้าที่คุมทัพเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเป้าหมายคือการทำผลงานเกมรอบสุดท้ายของให้ดีที่สุด หลังจากที่เคยไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 2008 สำหรับทีมชุดปัจจุบันมีตัวชูโรงอย่างหลายคนเลย นำทัพโดย ชักลาร์ โชยุนคู, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู และ บูรัค ยิลมาซ
อิตาลี : หลังพบกับความตกต่ำจากช่วงที่ไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2018 ตอนนี้อดีตแชมป์ 1 สมัยในปี 1968 สามารถกลับคืนสู่คความแข็งแกร่งได้อีกครั้ง นับตั้งแต่ได้กุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ เข้ามาทำหน้าที่คุมทัพเมื่อ 3 ปีก่อน โดยมี 2 จอมเก๋าอย่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เป็นแกนหลักในแนวรับ และมี ชิโร่ อิมโมบิเล่ พร้อมล่าตาข่ายในแนวรุก
เวลส์ : โชว์ฟอร์มในศึกยูโร 2016 ได้น่าประทับใจมากๆ เพราะสามารถทะลุไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในเกมรอบสุดท้ายอีกด้วย แม้ว่าในศึก ฟุตบอลยูโร 2020 จะไร้กุนซือตัวจริง เนื่องจาก ไรอัน กิ๊กส์ ถูกคำสั่งห้ามคุมทีมจากคดีทำร้ายแฟนเก่า แต่ โรเบิร์ต เพจ พร้อมสวมบทเป็นกุนซือขัดตาทัพ และยังคงมี แกเรธ เบล เป็นตัวชูโรงเหมือนเดิม
สวิตเซอร์แลนด์ : ผลงานที่ดีที่สุดจากเกมรอบสุดท้ายคือการผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมในศึกยูโร 2016 โดยยังคงอยู่ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช ซึ่งอยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2014 และมีนักเตะฝีเท้าดีที่กระจายไปค้าแข้งให้กับสโมสรระดับชั้นนำของยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ริคาร์โด้ โรดริเกซ, กรานิท ชาก้า รวมถึง เซอร์ดาน ชากิรี่
ฟันธง 2 ทีมเข้ารอบ : อิตาลี มีภาษีดีที่สุด ส่วน เวลส์ กับ สวิตเซอร์แลนด์ ต้องเบียดแย่งกัน และสุดท้ายน่าจะเป็น เวลส์ ผ่านเข้าไปได้แบบหวุดหวิด
วิเคราะห์บอลยูโร 2020 กลุ่ม B :
เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, เบลเยี่ยม, รัสเซีย
เดนมาร์ก : มีศักดิ์ศรีเป็นถึงแชมป์ 1 สมัยจากศึกยูโร 1992 โดยทีมชุดปัจจุบันอยู่ภายใต้การคุมทัของกุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ และมีผู้เล่นฝีเท้าดีกระจายค้าแข้งให้กับสโมสรระกับยักษ์ใหญ่หลายคนเลย ไม่ว่าจะเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก และ คริสเตียน อีริคเซ่น
ฟินแลนด์ : แม้จะไร้ประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เพราะได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายในศึกยูโรเป็นครั้งแรกเลย แต่กุนซือ มาร์กคู คาเนอร์ว่า พร้อมนำทีมทำผลงานให้ดีที่สุด โดยมี ติมู ปุ๊กกี้ ดาวยิงตัวเก่งเป็นขุมกำลังสำคัญในแดนหน้า
เบลเยี่ยม : นี่คือทีมเบอร์หนึ่งจากการจัดอันดับโลกของ ฟีฟ่า และตั้งเป้าหวังคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้สักครั้ง เพราะเคยทำได้ดีที่สุดเพียงรองแชมป์ยูโร 1980 โดยกุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ มีแข้งดังให้เลือกใช้งานได้เพียบเลยด้วย ไล่ตั้งแต่ เอเดน อาซาร์, เควิน เดอ บรอยน์ รวมถึง โรเมลู ลูกากู เป็นต้น
รัสเซีย : ยังคงต้องเดินตามหาอดีตที่ยิ่งใหญ่กันต่อไป เพราะเคยมีดีกรีเป็นแชมป์ 1 สมัยจากศึกยูโร 1960 ซึ่งเป็นครั้งแรกของการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ด้วย เมื่อตอนที่ สหภาพโซเวียต ยังไม่ล่มสลาย ส่วนตอนนี้ยังอยู่ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ และมี อาร์เต็ม ซูบ้า เป็นตัวความหวังสูงสุดในฐานะกัปตันทีมนั่นเอง
ฟันธง 2 ทีมเข้ารอบ : เบลเยี่ยม ไม่น่าพลาด และตามมาด้วย เดนมาร์ก
วิเคราะห์บอลยูโร 2020 กลุ่ม C :
ฮอลแลนด์, ยูเครน, ออสเตรีย, มาซิโดเนียเหนือ
ฮอลแลนด์ : ผ่านช่วงเวลาแห่งความตกต่ำจากตอนที่ไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกยูโร 2016 และฟุตบอลโลก 2018 มาแล้วถึง 2 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกัน จึงพร้อมย้อนรอยความสำเร็จเหมือนอย่างตอนที่คว้าแชมป์มาแล้ว 1 สมัยในศึกยูโร 1988 โดยอยู่ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟรงค์ เดอ บัวร์ และมี จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม พร้อมนำทัพในแดนกลางด้วย
ยูเครน : ไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่มจากการลงเล่นรอบสุดท้ายมาแล้ว 3 ครั้ง ทำให้กุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ อดีตดาวยิงในช่วงทศวรรษ 90 หมายมั่นปั้นมือหวังพาทีมไปไกลกว่านั้นให้ได้ โดยมีตัวชูโรงอย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เป็นขุมกำลังสำคัญ
ออสเตรีย : เป้าหมายคือการผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้เป็นอันดับแรก หลังจากที่เคยเล่นรอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้ง แต่จอดป้ายเพียงรอบแรกทั้งหมด โดยกุนซือ ฟรานโก้ โฟด้า พร้อมให้ตัวหลักอย่าง ดาวิด อลาบา นำทีมลงสนามด้วยความมุ่งมั่น
มาซิโดเนียเหนือ : เป็นอีกหนึ่งทีมหน้าใหม่ที่ได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายในรายการนี้เป็นครั้งแรก โดยอยู่ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ อีกอร์ อังเคลอฟสกี้ และยังคงมี โกรัน ปานเดฟ กองหน้ากัปตันทีมจอมเก๋าเป็นตัวหลักในแดนหน้า
ฟันธง 2 ทีมเข้ารอบ : ฮอลแลนด์ กับ ยูเครน น่าจะผ่านได้แบบออกแรงเหนื่อยไม่ใช่น้อยเลย
วิเคราะห์บอลยูโร 2020 กลุ่ม D :
อังกฤษ, โครเอเชีย, สกอตแลนด์, สาธารณรัฐเช็ก
อังกฤษ : แม้จะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกหนึ่งสมัยในปี 1966 แต่กลับไม่เคยผ่านเข้าถึงนัดชิงยูโรแม้แต่ครั้งเดียว และเคยทำได้ดีที่สุดคือไปถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 1996 โดยกุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต และดาวยิงคู่บารมีอย่าง แฮร์รี่ เคน พร้อมช่วยกันพาทีมไปถึงตำแหน่งแชมป์ให้ได้เสียที
โครเอเชีย : ยังคงอุดมไปเต็มด้วยนักเตะมากประสบการณ์จากทีมชุดคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไม่ว่าจะเป็น เดยัน ลอฟเรน, อีวาน เปริซิช และ ลูก้า โมดริช แต่เคยไปได้ไกลที่สุดเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2008 ทำให้กุนซือ ซลัตโก้ ดาริช หมายมั่นปั้นมือหวังไปไกลกว่าเดิมให้ได้
สกอตแลนด์ : ห่างหน้าห่างตาไปจากเกมอรบสุดท้ายมานานกว่า 10 ปีเลย นับตั้งแต่ตอนที่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในศึกยูโร 1996 แต่ผลงานที่ดีที่สุดคือตกรอบแรกตลอด ทำให้กุนซือ สตีฟ คลาร์ก พร้อมผนึกกำลังกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กัปตันทีมคนเก่งเพื่อนำทัพบ้านเกิดไปให้ได้ไกลกว่าเดิม
สาธารณรัฐเช็ก : เคยยิ่งใหญ่จากเมื่อตอนที่ยังเป็นประเทศเชโกสโลวะเกียในฐานะแชมป์ยูโร 1976 แต่หลังจากที่แยกประเทศมาแล้วเคยไปได้ไกลที่สุดถึงรองแชมป์ยูโร 1996 โดยกุนซือ ยาโรสลาฟ ซิฮาวี่ รวมถึงตัวชูโรงอย่าง โทมัส ซูเซ็ก ย้อนเดินรอยประวัติศาสตร์เหมือนเมื่อครั้งวันวานให้ได้อีกครั้ง
ฟันธง 2 ทีมเข้ารอบ : อังกฤษ น่าจะลอยลำได้แบบไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิด ส่วน โครเอเชีย อาศัยความเก๋าในการลอยลำ
วิเคราะห์บอลยูโร 2020 กลุ่ม E :
สเปน, สวีเดน, โปแลนด์, สโลวาเกีย
สเปน : อดีตแชมป์ 2 สมัยซ้อนจากศึกยูโร 2008 และ 2012 ยังคงอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ จึงอดุมไปด้วยนักเตะหนุ่มๆ เต็มไปหมด โดยกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ รวมถึง เซร์คิโอ บุสเกตส์ กัปตันทีมจอมเก๋าพร้อมช่วยกันนำบ้านเกิดไปถึงจุดสูงสุดให้ได้อีกสักครั้งหนึ่ง
สวีเดน : ผลงานที่ดีที่สุดคือเข้าถึงรอบรงชนะเลิศในศึกยูโร 1992 แต่หลังจากนั้นไม่เคยไปถึงจุดเดิมได้อีกเลย ทำให้กุนซือ แยนน์ อันเดอร์สัน พร้อมปลุกลูกทีมไปให้ได้ไกลกว่าเดิม โดยมี วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ เป็นตัวชูโรงในแดนหลังเหมือนเช่นเคย
โปแลนด์ : ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2016 และเป็นผลงานที่ดีที่สุดในรายการนี้เลยด้วย โดยกุนซือ เปาโล ซูซ่า รวมถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่งพร้อมผนึกกำลังกันเพื่อพาทีมไปให้ไกลกว่าผลงานเมื่อครั้งอดีต
สโลวะเกีย : เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเชโกสโลวะเกียเมื่อตอนที่คว้าแชมป์ยูโร 1976 และสามารถผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2016 ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่แยกประเทศออกมาด้วย ทำให้กุนซือ สเตฟาน ทาร์โควิช รวมถึง มาเร็ค ฮัมซิค พร้อมช่วยกันพาทีมไปให้ได้ไกลที่สุดเลย
ฟันธง 2 ทีมเข้ารอบ : สเปน พอเอาตัวรอดได้ เช่นเดียวกับ โปแลนด์
วิเคราะห์บอลยูโร 2020 กลุ่ม F :
ฮังการี, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส, เยอรมนี
ฮังการี : ถ้าย้อนหลังกลับไปเมื่อครั้งวันวาน นี่คือทีมระดับเบอร์ต้นๆ ของวงการลูกหนังเลย โดยเคยไปได้ไกลที่สุดถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 1964 และ 1972 ได้ด้วย โดยกุนซือ มาร์โก รอสซี่ อาจไม่ได้หวังสูงถึงขั้นคว้าแชมป์ แต่ก็พร้อมกระตุ้นให้ อดัม ซาไล กัปตันทีมตัวเก่งช่วยกันผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้เสียก่อน
โปรตุเกส : แบกศักดิ์ศรีความเป็นแชมป์เก่าเอาไว้จากการเข้าวินในศึกยูโร 2016 โดยกุนซือ เฟอร์นันโด้ ซานโต๊ส ยังคงมีขุมกำลังนักเตะฝีเท้าดีให้ใช้งานเพียบเลย ซึ่งรวมถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมคนเก่ง เพื่อลุ้นป้องกันแชมป์ให้ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
ฝรั่งเศส : เมื่อครั้งอดีตเคยเป็นแชมป์มาแล้ว 2 สมัยในศึกยูโร 1984 และ 2000 และมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 อีกด้วย โดยกุนซือ ดิดิเยร์ เดสชองส์ พร้อมปลุกเร้าพวกแข้งดังอย่าง อองตวน กรีซมันน์ ให้ได้ช่วยกันตามล่าความสำเร็จกันต่อไป
เยอรมนี : เจ้าของตำแหน่งอดีตแชมป์ 3 สมัยในศึกยูโร 1972, 1980 และ 1996 ห่างหายจากบัลลังก์เบอร์หนึ่งของทวีปมานานแล้ว ทำให้กุนซือ โจอาคิม เลิฟ พร้อมกระตุ้นพวกแข้งดังอย่าง โทนี่ โครส รวมถึง โธมัส มุลเลอร์ ให้ช่วยกันไปถึงฝั่งฝันให้ได้อีกสักรอบ
ฟันธง 2 ทีมเข้ารอบ : ฝรั่งเศส น่าจะได้จองหนึ่งที่ ส่วน โปรตุเกส น่าจะปาดหน้า เยอรมนี ได้แบบหืดจับ