วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันพฤหัสที่ 17 มิ.ย. 2021

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันพฤหัสบดีที่ 17 มิ.ย.นี้ มีโปรแกรมลงสนามทั้งหมด 3 คู่ ไล่ตั้งแต่ อิตาลี vs สวิต ที่จะประเดิมเป็นคู่แรกในตอน 02.00 น. ถัดมาเป็นทีม ยูเครน vs นอร์ทมาซิโดเนีย และปิดท้ายด้วย เบลเยี่ยม ทีมฟอร์มแรงจากเกมนัดแรกนั่นเอง

บอลยูโร 2020 อิตาลี vs สวิตเซอร์แลนด์

อิตาลี VS สวิตเซอร์แลนด์

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้, กรุงโรม ประเทศอิตาลี

เวลา : 02.00 น.

อิตาลี

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ชนะ บัลแกเรีย 2-0 (เยือน)

ชนะ ลิทัวเนีย 2-0 (เยือน)

ชนะ ซาน มาริโน 7-0 (เหย้า)

ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 4-0 (เหย้า)

ชนะ ตุรกี 3-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ จะปรับทัพจากเกมประเดิมสนามที่ไล่ต้อน ตุรกี 3-0 เพื่อลุ้นคว้าชัยจะได้ขึ้นแท่นรอผ่านเข้ารอบไปเลย จึงน่าจะใช้แผนการเล่นแบบ 4-3-3 โดยพวกแข้งหลักยังพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะให้ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับยังคงใช้ 2 จอมเก๋า จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ยืนคู่กับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ส่วนแบ็กขวาหมดสิทธิ์ใช้งาน อเล็กซานโดร ฟลอเรนซี่ ได้รับบาดเจ็บ และน่าจะให้ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ลงไปยืนคนละฝั่งกับ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า แดนกลางได้ มาร์โก แวร์รัตติ ฟิตกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง แต่น่าจะใช้ 3 ประสาน จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า และ โทมัส โลคาเตลลี่ ช่วยกันคุมเกมเหมือนอย่างนัดแรก แนวรุกจะให้ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ กับ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ เป็นปีกริมเส้นทั้งสองข้าง และวาง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ยืนเป็นหัวหอกต่อไป    

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

แนวรับ : จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อเล็กซานโดร ฟลอเรนซี่, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่

แดนกลาง : จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า, โทมัส โลคาเตลลี่

แนวรุก : โดเมนิโก้ เบราร์ดี้, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, ชิโร่ อิมโมบิเล่

สวิตเซอร์แลนด์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ชนะ ลิทัวเนีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ ฟินแลนด์ 3-2 (เหย้า)

ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-2 (เหย้า) 

ชนะ ลิกเท่นสไตน์ 7-0 (เหย้า)

เสมอ เวลส์ 1-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช จะปรับทัพจากเกมประเดิมสนามที่เสมอ เวลส์ 1-1 เพื่อลุ้นคว้าชัยจะได้ต่อโอกาสไปสู่การเข้ารอบในนัดสุดท้าย จึงน่าจะยึดแผนการเล่นแบบ 3-4-1-2 เอาไว้ก่อน และยังใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมด เริ่มจากผู้รักษาประตูจะให้ ยานน์ ซอมเมอร์ ยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับจะให้ ฟาเบียน ชาร์ ยืนร่วมกับ นิโก้ เอลเวดี้ และ มานูเอล อคานญี่ แดนกลางวาง เดนิส ซากาเรีย คุมเกมคู่กับ กรานิท ชาก้า และให้ เควิน เอมบาบู กับ ริคาร์โด้ โรดริเกซ เป็นตัวริมเส้นทั้งสองฝั่ง แนวรุกพร้อมวาง เซอร์ดาน ชากิรี่ เป็นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังของคู่กองหน้า บรีล เอ็มโบโล่ กับ ฮาริส เซเฟโรวิช  

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : ยานน์ ซอมเมอร์

แนวรับ : ฟาเบียน ชาร์, นิโก้ เอลเวดี้, มานูเอล อคานญี่

แดนกลาง : เดนิส ซากาเรีย, กรานิท ชาก้า, เควิน เอมบาบู, ริคาร์โด้ โรดริเกซ

แนวรุก : เซอร์ดาน ชากิรี่, บรีล เอ็มโบโล่, ฮาริส เซเฟโรวิช

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง อิตาลี vs สวิตเซอร์แลนด์

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 9 นัด ปรากฎว่า อิตาลี มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย เพราะเป็นฝ่ายชนะ 3 เกม เสมอ 4 เกม และแพ้ 2 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตร เมื่อปี 2010 ปรากฎว่า เสมอในบ้านของ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 เพราะสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาโชว์ได้ในนัดประเดิมสนาม ทำให้ อิตาลี ได้รับการยกให้เป็นทีมเต็งแชมป์ไปด้วยเลย หลังไม่พบกับความพ่ายแพ้มานานแล้วถึง 28 เกมติตต่อกัน นับตั้งแต่พลาดท่าบุกไปแพ้ โปรตุเกส 0-1 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2018 และมีสภาพทีมที่ลงตัวเป็นอย่างมาก ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ ยังอยู่ในช่วงฟอร์มดีจากการไร้พ่ายมาแล้ว 7 เกม แต่แนวรับยังดูไม่ค่อยนิ่งเสียเท่าไรนัก ดังนั้น อิตาลี น่าจะมีลุ้นคว้าชัยได้ไม่ยากเหมือนอย่างที่คิด 

ผลที่คาด – อิตาลี ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-0

ยูเครน VS มาซิโดเนียเหนือ

บอลยูโร 2020 ยูเครน vs มาซิโดเนียเหนือ

สนาม : เนชั่นแนล อารีน่า, กรุงบูคาเรตส์ ประเทศโรมาเนีย

เวลา : 20.00 น.

ยูเครน

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

เสมอ คาซัคสถาน 1-1 (เหย้า)

เสมอ บาห์เรน 1-1 (เหย้า)

ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 1-0 (เหย้า)

ชนะ ไซปรัส 1-0 (เหย้า)

แพ้ ฮอลแลนด์ 2-3 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ จะปรับทัพจากเกมนัดแรกที่แพ้ ฮอลแลนด์ 3-2 เพื่อลุ้นคว้าชัยต่อโอกาสผ่านเข้ารอบในเกมนัดสุดท้าย โดยจะใช้แผนการเล่นแบบ 4-3-3 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะให้ จอร์จี้ บุชชาน ยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับจะให้ อิลเลีย ซาบาร์นี่ ยืนคู่กับ มีโคล่า มัตเวียนโก้ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ วิตาลี มีโคเลนโก้ และ โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ แดนกลางยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ โอเล็กซานเดอร์ ซูบคอฟ แต่พร้อมวาง เซอร์เก ชีดอร์ชุค คุมเกมร่วมกับ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ และ รัสลาน มาลินอฟสกี้ แนวรุกน่าจะขยับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ขึ้นไปยืนเป็นปีกซ้ายคนละฝั่งกับ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ เพื่อป้อนบอลให้กับ โรมัน ยาเรมชุค ซึ่งจะสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จอร์จี้ บุชชาน

แนวรับ : อิลเลีย ซาบาร์นี่, มีโคล่า มัตเวียนโก้, วิตาลี มีโคเลนโก้, โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ

แดนกลาง : เซอร์เก ชีดอร์ชุค, มีโคล่า ชาปาเรนโก้, รัสลาน มาลินอฟสกี้

แนวรุก : โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, โรมัน ยาเรมชุค

มาซิโดเนียเหนือ

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ ลิกเทนสไตน์ 5-0 (เหย้า)

ชนะ เยอรมนี (เยือน) 1-2

เสมอ สโลวีเนีย 1-1 (เหย้า)

ชนะ คาซัคสถาน 4-0 (เหย้า)

แพ้ ออสเตรีย 1-3 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ อิกอร์ อังเคลอสฟกี้ จะปรับทัพจากเกมนัดแรกที่แพ้ ออสเตรีย 1-3 เพื่อเก็บชัยเป็นนัดแรกให้ได้ หากยังหวังลุ้นผ่านเข้ารอบในเกมนัดต่อไป โดยจะใช้แผนการเล่นแบบ 3-5-2 และใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมดเลยด้วย เริ่มจากผู้รักษาประตูจะให้ สโตล ดิมทรีเยฟสกี้ ยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับยังคงใช้ ดาร์โก้ เวลคอฟสกี้ ยืนร่วมกับ วิซาร์ มุสลิอู และ สเตฟาน ริสตอฟสกี้ แดนกลางวาง อารียาน อเดมี่ คุมเกมร่วมกับ เอนิส บาร์ธี และ เอลจีฟ เอลมาส ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ โบบัน นิโกลอฟ กับ เอซยาน อลิออสกี้ แนวรุกยังคงให้ อเล็กซานดาร์ ทราจ์คอฟสกี้ ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ โกรัน ปานเดฟ กองหน้ากัปตันทีมจอมเก๋าเหมือนเดิม

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : สโตล ดิมิทรีเยฟสกี้

แนวรับ : ดาร์โก้ เวลคอฟสกี้, วิซาร์ มุสลิอู, สเตฟาน ริสตอฟสกี้

แดนกลาง : อารียาน อเดมี่, เอนิส บาร์ธี, เอลจีฟ เอลมาส, โบบัน นิโกลอฟ, เอซยาน อลิออสกี้

แนวรุก : อเล็กซานดาร์ ทราจ์คอฟสกี้, โกรัน ปานเดฟ

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง ยูเครน vs มาซิโดเนียเหนือ

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 4 นัด ปรากฎว่า ยูเครน มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 2 เกม เสมอ 1 เสมอ และแพ้ 1 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2015 ปรากฎว่า ยูเครน เป็นฝ่ายชนะ 2-0 หลังจากที่ทั้งสองทีมพบกับความปราชัยในเกมประเดิมสนามมาเหมือนกัน ทำให้ต้องแย่งกันคว้าชัยชนะเพื่อต่อโอกาสลุ้นผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในนัดต่อไป แม้ว่า มาซิโดเนียเหนือ จะมีจุดแข็งในเรื่องของทีมสปิริตที่พร้อมวิ่งสู้ฟัดกันทุกคน และมีนักเตะตัวชูโรงเพียงแค่คนเดียว นั่นก็คือ โกรัน ปานเดฟ ซึ่งต้องรับหน้าที่แบกทีมไปแบบเต็มๆ แต่ ยูเครน มีจุดเด่นในเรื่องของการต่อบอลเพื่อเล่นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว และจบสกอร์ได้แบบเฉียบขาดด้วย ดังนั้น ยูเครน น่าจะอาศัยศักยภาพที่เหนือกว่าเพื่อสะกดคำว่าชนะได้สำเร็จ   

ผลที่คาด – ยูเครน ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 2-0

เดนมาร์ก VS เบลเยี่ยม

บอลยูโร-2020 เดนมาร์ก vs เบลเยี่ยม

สนาม : ปาร์เค่น สเตเดี้ยม, กรุงโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก

เวลา 23.00 น.

เดนมาร์ก

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ มอลโดวา 8-0 (เหย้า)

ชนะ ออสเตรีย 4-0 (เยือน)

เสมอ เยอรมนี 1-1 (สนามเป็นกลาง)

ชนะ บอสเนีย 2-0 (เหย้า)

แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ จะปรับทัพจากเกมนัดแรกที่แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 หลังเสียขวัญมาจากเหตุการณ์ที่ คริสเตียน อิริคเซ่น วูบหมดสติคาสนาม และจะหมดสิทธิ์ใช้งานจอมทัพคนเก่งในช่วงตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์นี้ไปด้วยเลย จึงพร้อมกลับมาร่วมใจสู้ต่อเพื่อลุ้นเก็บชัยให้ได้ เพราะจะมีผลต่อการลุ้นผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในนัดสุดท้ายนั่นเอง โดยยังพร้อให้พวกแข้งหลักลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะให้ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ลงไปยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม แนวรับยังคงใช้ ซิมง เคียร์ ยืนคู่กับ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ ดาเนี่ยล วาสส์ กับ โจอาคิม มาเอห์เล่ แดนกลางวาง ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก เป็นตัวคุมเกมคู่กับ โธมัส เดลานีย์ แนวรุกน่าจะให้ มาธีอัส แยนเซ่น ลงไปสวมบทเป็นตัวปั้นเกม และให้ ยุสเซฟ โพลเซ่น กับ มาร์ติน เบรธเวท เป็นตัวริมเส้นทั้งสองฝั่ง ส่วนกองหน้ายังคงเป็นหน้าที่ของ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

แนวรับ : ซิมง เคียร์, อันเดรียส คริสเตียนเซ่น, ดาเนี่ยล วาสส์, โจอาคิม มาเอห์เล่

แดนกลาง : ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก, โธมัส เดลานีย์, มาธีอัส แยนเซ่น

แนวรุก : ยุสเซฟ โพลเซ่น, มาร์ติน เบรธเวท, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

เบลเยี่ยม

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

เสมอ สาธารณรัฐเช็ก 1-1 (เยือน)

ชนะ เบลารุส 8-0 (เหย้า)

เสมอ กรีซ 1-1 (เหย้า)

ชนะ โครเอเชีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ รัสเซีย 3-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมประเดิมสนามที่ไล่ต้อน รัสเซีย 3-0 เพื่อลุ้นเก็บชัยเป็นนัดที่ 2 ติตต่อกัน และจะได้ขึ้นแท่นรอผ่านเข้ารอบไปเลย แม้จะต้องรอเช็กสภาพความฟิตของนักเตะบางคน แต่ยังพร้อมให้พวกแข้งดังลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1 เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงให้ ติโบต์ กูร์ตัวส์ ยืนเฝ้าเสา แนวรับยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ แยน แฟร์ทองเก้น หากลงเล่นไม่ได้จะให้ โธมัส แฟร์มาเลน ลงไปยืนร่วมกับ เดดริก โบยาต้า และ โทบี้ อัลเดอร์ไวรัลด์ แดนกลางยังต้องรอเช็กสภาพร่างกายของ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพตัวเก่งที่มีปัญหาเรื่องความฟิต แต่น่าจะให้ เลอันโดร เดนดองเกอร์ ลงไปคุมเกมคู่กับ ยูริ ติเลอมองส์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ โธมัส มูนิเยร์ และขยับ ธอร์กอง อาซาร์ ไปยืนทางฝั่งซ้ายแทน ติโมธี คาสตาเญ่ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แนวรุกน่าจะให้ เอเดน อาซาร์ ลงไปประสานงานกับ ดรีส เมอร์เท่นส์ และ โรเมลู ลูกากู

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : ติโบต์ กูร์ตัวส์

แนวรับ : โธมัส แฟร์มาเลน, เดดริก โบยาต้า, โทบี้ อัลเดอร์ไวรัลด์

แดนกลาง : เลอันโดร เดนดองเกอร์, ยูริ ติเลอมองส์, โธมัส มูนิเยร์, ธอร์กอง อาซาร์

แนวรุก : เอเดน อาซาร์, ดรีส เมอร์เท่นส์, โรเมลู ลูกากู

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง เดนมาร์ก vs เบลเยี่ยม

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 4 นัด ปรากฎว่า เบลเยี่ยม มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 2 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 1 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2020 ปรากฎว่า เบลเยี่ยม เปิดบ้านชนะ 4-2 หากดูจากเกมนัดประเดิมสนามต้องบอกว่า เบลเยี่ยม มีขุมกำลังที่ลงตัวในทุกตำแหน่งเลย และมีเกมบุกที่เฉียบคมมากๆ โดยเฉพาะ โรเมลู ลูกากู ดาวยิงตัวเก่งที่พร้อมจบสกอร์ได้ทุกเมื่อเลย และจัดการซัดเบิ้ลเหมาคนเดียวจากเกมนัดแรกได้ถึง 2 ประตูอีกด้วย ส่วน เดนมาร์ก น่าจะยังเสียขวัญอยู่ไม่น้อย แม้จะได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในถิ่นของตัวเอง เพราะเป็นหนึ่งในเจ้าภาพร่วมด้วยเช่นกัน และนักเตะยังคงพร้อมร่วมใจกันสู้เพื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น แต่การขาดหายไปของจอมทัพตัวเก่งน่าจะส่งผลกระทบต่อแนวรุกแน่ๆ เพราะเป็นตัววางบอลคนสำคัญในแดนกลางนั่นเอง ดังนั้น เบลเยี่ยม น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยได้แบบไม่ยากเย็นนัก

ผลที่คาด – เดนมาร์ก แพ้ เบลเยี่ยม 1-3

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ฟันธงกันได้ทุกวันจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.นี้กันได้เลย

เช็คผลบอลยูโร 2020 ล่าสุด

คอมเมนต์

Leave a Comment