วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันเสาร์ที่ 3 ก.ค. 2021

บอลยูโร 2020 เบลเยี่ยม VS อิตาลี

เบลเยี่ยม VS อิตาลี

สนาม : ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค, เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

เวลา : 23.00 น.

เบลเยี่ยม

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ โครเอเชีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ รัสเซีย 3-0 (ยูโร 2020)

ชนะ เดนมาร์ก 2-1 (ยูโร 2020)

ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 (ยูโร 2020)

ชนะ เบลเยี่ยม 1-0 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ จะปรับทัพจากเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เฉือนชนะ โปรตุเกส แชมป์เก่า 1-0 และเตรียมปรับแดนหน้าค่อนข้างแน่ แต่ยังพร้อมให้พวกแข้งดังออกสตาร์ทป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1 ไล่ตั้งแต่ ผู้รักษาประตูจะให้ ติโบต์ กูร์ตัวส์ ยืนเฝ้าเสาต่อไป แนวรับไม่น่าจะใช้ เดดริก โบยาต้า กับ เจสัน เดนาแยร์ เพื่อให้ 3 กองหลังจอมเก๋า โธมัส แฟร์มาเลน, โทบี้ อัลเดอร์ไวรัลด์ และ แยน แฟร์ทองเก้น ยืนด้วยกันไปเลย แดนกลางพร้อมให้ อักเซล วิตเซล ยืนคุมเกมคู่กับ ยูริ ติเลอมองส์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งยังคงเป็นหน้าที่ของ โธมัส มูนิเยร์ กับ ธอร์ก็อง อาซาร์ แนวรุกยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ เอเดน อาซาร์ กับ เควิน เดอ บรอยน์ ได้รับบาดเจ็บจากเกมนัดที่แว แต่คาดว่าทั้งคู่ไม่น่าจะได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง จึงน่าจะขยับ ยานนิค คาร์ราสโก้ จากตัวริมเส้นให้มายืนเป็นตัวปั้นเกมคู่กับ ดรีส เมอร์เท่นส์ เพื่อป้อนบอลให้กับ โรเมลู ลูกากู ซึ่งพร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม     

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : ติโบต์ กูร์ตัวส์

แนวรับ : แยน แฟร์ทองเก้น, โทบี้ อัลเดอร์ไวรัลด์, โธมัส แฟร์มาเลน

แดนกลาง : โธมัส มูนิเยร์, ธอร์ก็อง อาซาร์, ยูริ ติเลอมองส์, อักเซล วิตเซล

แนวรุก : โรเมลู ลูกากู, ดรีส เมอร์เท่นส์, ยานนิค คาร์ราสโก้

อิตาลี

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ชนะ ซาน มาริโน 7-0 (เหย้า)

ชนะ ตุรกี 3-0 (ยูโร 2020)

ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 (ยูโร 2020)

ชนะ เวลส์ 1-0 (ยูโร 2020)

ชนะต่อเวลา ออสเตรีย 2-1 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุด้ทาย หลังเสมอในช่วง 90 นาที 0-0)

คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ จะปรับทัพจากเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เฉือนชนะ ออสเตรีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังจบ 90 นาที เสมอ 0-0 และยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายจากการลงเล่นในทุกรายการเอาไว้ได้ถึง 31 นัดติดต่อกัน โดยพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3 เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงใช้ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่ง แนวรับมีลุ้นได้ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ หายเจ็บแล้วฟิตกลับมาช่วยทีม แต่ถ้าลงเล่นไม่ได้จะให้ ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้ ยืนคู่กับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ต่อไป ส่วนแบ็กขวารอเช็กสภาพร่างกายของ อเล็กซานโดร ฟลอเรนซี่ หากยังไม่หายเดี้ยงจะให้ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ลงไปยืนคนละฝั่งกับ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า แดนกลางรอชั่งใจเลือกระหว่าง มานูเอล โลคาเตลลี่ กับ มาร์โก แวร์รัตติ เพื่อให้ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ นิโกโล่ บาเรลล่า และ นิโกโล่ บาเรลล่า แนวรุกอาจเปลี่ยนปีกขวาด้วยการดร็อป โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ เพื่อให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ลงไปประสานงานกับ ลอเรนโซ อินซิเญ่ และ ชิโร่ อิมโมบิเล่       

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

แนวรับ : โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า

แดนกลาง : มานูเอล โลคาเตลลี่, จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า

แนวรุก : ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, ชิโร่ อิมโมบิเล่, เฟเดริโก้ เคียซ่า

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง เบลเยี่ยม VS อิตาลี

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 22 นัด ปรากฎว่า อิตาลี มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 14 เกม เสมอ 4 เกม และแพ้ 4 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูโร 2016 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อปี 5 ปีก่อน ปรากฎว่า เบลเยี่ยม เป็นฝ่ายแพ้ 0-2 ถือว่าคู่นี้เป็นเกมระดับ 5 ดาวอย่างแน่นอน เพราะเป็นการเผชิญหน้ากันของ 2 ชาติลูกหนังที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ อิตาลี ซึ่งไร้พ่ายมาแล้วถึง 30 กว่าเกม และมีแนวรับที่เหนียวแน่นมากๆ ส่วนแนวรุกสามารถผลิตสกอร์ได้แบบต่อเนื่อง และคาดว่า มานูเอล โลคาเตลลี่ มิดฟิลด์จอมยิงแถวสองน่าจะได้กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่ อิตาลี ยังไม่ได้ผ่านเกมหนักๆ จากการดวลแข้งกับทีมใหญ่ๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้เลย ซึ่งตรงข้ามกับ เบลเยี่ยม ที่เพิ่งผ่าน โปรตุเกส แชมป์เก่ามาได้แบบไม่ยากเย็กนัก และต้องสังเวย 2 แนวรุกตัวเก่งอย่าง เอเดน อาซาร์ กับ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เจอโรคเดี้ยงเล่นงานจากนัดก่อนเหมือนกันทั้งคู่ แต่ยังคงมีพวกดาวดังให้เลือกใช้งานได้อีกหลายคนเลย ดังนั้นเกมคู่นี้มีโอกาสจบลงด้วยผลเสมอในช่วงเวลาปกติ เพราะน่าจะเล่นกันแบบรัดกุมเพื่อดูเชิงกันไป แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว เบลเยี่ยม น่าจะมีทีเด็ดในช่วงต่อเวลาพิเศษ และทะลุผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จ  

ผลที่คาด – เบลเยี่ยม เสมอ อิตาลี 1-1 (เบลเยี่ยม ชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1)

บอลยูโร 2020 สาธารณรัฐเช็ก VS เดนมาร์ก

สาธารณรัฐเช็ก VS เดนมาร์ก

สนาม : โอลิมปิก สเตเดี้ยม, กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

เวลา : 23.00 น.

สาธารณรัฐเช็ก

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ แอลเบเนีย 3-1 (เหย้า)

ชนะ สกอตแลนด์ 2-0 (ยูโร 2020)

เสมอ โครเอเชีย 1-1 (ยูโร 2020)

แพ้ อังกฤษ 0-1 (ยูโร 2020)

ชนะ ฮอลแลนด์ 2-0 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

คาดว่ากุนซือ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ จะปรับทัพจากเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ชนะ ฮอลแลนด์ 2-0 โดยพร้อมให้บรรดาแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามแผนการเเล่นแบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม เพราะไร้ปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บ ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะให้ โทมัส วาคลิก สวมบทเป็นมือหนึ่งแน่นอน แนวรับเป็นหน้าที่ของ โทมัส คาลาส ยืนคู่กับ ออนเดรจ์ เซลุสต์ก้า ส่วนฟูลแบ็กฝั่งซ้ายส่อดร็อป พาเวล คาเดราเบ็ค เพราะจะได้ แยน โบริล พ้นโทษแบนกลับมายืนคนละด้านกับ วลาดิเมียร์ คูฟาล แดนกลางยังคงวาง โทมัส โฮเลส ยืนคุมเกมคู่กับ โทมัส ซูเช็ก ส่วนแนวรุกส่อปรับ 2 ตำแหน่ง โดยต้องรอชั่งใจเลือกระหว่าง วลาดิเมียร์ ดาริด้า หรือ อันโตนิน บารัค ว่าจะให้ใครสวมบทเป็นจอมทัพ เช่นเดียวกับปีกซ้ายที่มีให้เลือกถึง 2 คน นั่นก็คือ ยาคุบ ยังค์โก้ หรือ ปีเตอร์ เซฟซิก แต่ปีกขวายังคงใช้ ลูคัส มาโซปุสต์ ส่วน พาทริค ชิก ยังคงพร้อมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า หลังยิงประตูในศึกยูโร 2020 ไปแล้ว 4 ลูก

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : โทมัส วาคลิก

แนวรับ : พาเวล คาเดราเบ็ค, อองเดร์จ เซลุสต์ก้า, โทมัส คาลาส, วลาดิเมียร์ คูฟาล

แดนกลาง : โทมัส ซูเซ็ก, โทมัส โฮเลส, วลาดิเมียร์ ดาริด้า

แนวรุก : ปีเตอร์ เซฟซิก, ลูคัส มาโซปุสต์, พาทริค ชิก

เดนมาร์ก

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ บอสเนีย 2-0 (เหย้า)

แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 (ยูโร 2020)

แพ้ เดนมาร์ก 1-2 (ยูโร 2020)

ชนะ รัสเซีย 4-1 (ยูโร 2020)

ชนะ เวลส์ 4-0 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

คาดว่ากุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ จะปรับทัพจากเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ถล่ม เวลส์ 4-0 จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-3 แม้จะต้องรอเช็กความฟิตของนักเตะบางราย แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมด โดยผู้รักษาประตูยังคงให้ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยืนเฝ้าเสาเหมือนเช่นเคย แนวรับรอเช็กสภาพความฟิตของ ซิมง เคียร์ มีปัญหาบาดเจ็บตรงบริเวณศีรษะ แต่คาดว่ายังสามารถสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมลงไปยืนร่วมกับ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น และ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด แดนกลางไม่มี คริสเตียน อีริคเซ่น ยังต้องพักรักษาตัวจากอาการวูบหมดสติในนัดประเดิมสนามเหมือนเดิม จึงน่าจะให้ ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก ยืนคุมเกมคู่กับ โธมัส เดลานีย์ ต่อไป ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ ดาเนี่ยล วาสส์ กับ โจอาคิม มาห์เล่ ส่วนแนวรุกยังต้องรอเช็กสภาพร่างกายของ ยุสเซฟ โพลเซ่น แต่น่าจะให้ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก ซึ่งจัดการซัดเบิ้ลเหมายิงคนเดียว 2 ประตูลงไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อประสานงานกับ มาร์ติน เบรธเวท และ มิคเคล ดัมสการ์ด     

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

แนวรับ : อันเดรียส คริสเตียนเซ่น, ซิมง เคียร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด

แดนกลาง : โจอาคิม มาเอห์เล่, โธมัส เดลานีย์, ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก, ดาเนี่ยล วาสส์

แนวรุก : มิคเคล ดัมสการ์ด, มาร์ติน เบรธเวท, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก 

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง สาธารณรัฐเช็ก VS เดนมาร์ก

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 11 นัด ปรากฎว่า เดนมาร์ก มีสถิติเป็นรองเพียงเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 2 เกม เสมอ 6 เกม และแพ้ 3 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในเกมนัดกระชับมิตร เมื่อปี 2016 ปรากฎว่า เสมอในบ้านของ สาธารณรัฐเช็ก 1-1 สำหรับเกมนี้ถือว่าเป็นการดวลแข้งกันของ 2 ทีมม้ามืดที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้แบบพลิกความคาดหมาย แม้จะพบกับความพ่ายแพ้จาก 2 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม และต้องเสีย คริสเตียน อีริคเซ่น ซึ่งมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ เดนมาร์ก ยังพร้อมลงเล่นด้วยความมั่นใจ หลังยิงประตูทีมคู่แข่งได้ถึง 4 ลูกมาแล้วถึง 2 เกมติดต่อกัน โดยพร้อมให้ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้าค่อนข้างแน่ ส่วน สาธารณรัฐเช็ก มีจุดเด่นในเรื่องของทีมเวิร์ก นอกจากนี้ยังมี พาทริค ชิก เป็นกองหน้าตัวความหวังที่พร้อมล่าตาข่ายได้แบบเฉียบคม แต่ เดนมาร์ก มีรูปแบบการเล่นเกมรุกที่หลากหลายมากกว่า จึงน่าจะเจาะตาข่ายของ สาธารณรัฐเช็ก ได้แบบไม่ยาก และน่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยได้ในที่สุด

ผลที่คาด – สาธารณรัฐเช็ก แพ้ เดนมาร์ก 1-2

ตรวจผลบอลยูโร 2020

คอมเมนต์

Leave a Comment