บทวิเคราะห์ ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 หรือ ยูโร 2020 ได้เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งยังคงจะแข่งขันกันแบบแพ้คัดออกตกรอบไปเลย เพื่อตามหา 4 ชาติลูกหนังที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศกันต่อไป แต่ไร้เงาของ โปรตุเกส แชมป์เก่าจากศึกยูโร 2016 เพราะกระเด็นตกรอบไปเสียแล้ว

8 ทีมสุดท้ายบนเส้นทางลุ้นแชมป์ยูโร 2020

เส้นทางยูโร 2020 รอบ 8 ทีม

อิตาลี ได้เวลาออกล่าแชมป์สมัยที่ 2

นับตั้งแต่คว้าแชมป์ได้ 1 สมัยจากศึกยูโร 1964 หลังจากนั้น อิตาลี ไม่เคยได้สัมผัสแชมป์รายการนี้อีกเลย จึงหมายมั่นปั้นมือหวังกลับไปยึดบัลลังก์เจ้าลูกหนังของทวีปยุโรปให้ได้อีกครั้ง และกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มสดแบบสุดขีด หลังสร้างสถิติไร้พ่ายจากการลงเล่นในทุกรายการมาแล้วถึง 31 เกมติดต่อกัน โดยมีจุดเด่นในเรื่องเกมรับที่เล่นกันได้อย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้กุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังมีเกมรุกที่ไว้ใจได้อีกด้วย โดยเฉพาะ มานูเอล โลคาเตลลี่ ซึ่งสวมบทเป็นกองกลางตัวรับคอยทหน้าที่คุมเกมได้ดีอยู่แล้ว แถมยังทีเด็ดจากการเติมเกมบุกขึ้นไปยิงประตูได้อีกต่างหาก

อังกฤษ พร้อมไขว่คว้าเบอร์หนึ่งยุโรป

ได้รับการยกให้เป็นหนึ่งทีมเต็งแชมป์รายการใหญ่มาโดยตลอด แม้จะเคยท่าดีทีเหลวจากการตกรอบก่อนเวลาอันควรอยู่เป็นประจำ แต่ตอนนี้ อังกฤษ ในยุคของกุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต ยังคงบนอยู่เส้นทางลุ้นแชมป์ยูโร 2020 และมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นตัวชูโรงในแนวรุก ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่งสามารถเริ่มนับหนึ่งจากการยิงประตูแรกได้แล้วด้วย  พร้อมกับพกสถิติแนวรับสุดแกร่งจากการที่ยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว โดยก่อนหน้านี้เคยไปได้ไกลที่สุดเพียงแค่รอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 1968 และยูโร 1996 จึงหมายมั่นปั้นมือหวังยึดตำแหน่งเบอร์หนึ่งยุโรปเป็นครั้งแรกให้ได้เสียที

สเปน ชื่อนี้ยังคงแข็งแกร่งอยู่เสมอ

แม้จะทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้ไม่ดีนัก แต่ สเปน ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้ และค่อยๆ เรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้แล้ว จึงสามารถทะลุผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ พร้อมกับอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์เป็นสมัยที่ 4 หลังจากที่เคยยึดบัลลังก์เจ้าลูกหนังของทวีปมาแล้วถึง 3 สมัยจากศึกยูโร 1964, ยูโร 2008 รวมถึงยูโร 2012 โดยกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ ยังคงไว้ใจฝีเท้าของ อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้าตัวเก่งในแบบที่ไม่สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้โอกาสยิงประตูได้เปลืองเหลือเกิน เพราะยังคงสอยตาข่ายให้บ้านเกิดได้อยู่นั่นเอง

เบลเยี่ยม หวังขึ้นบัลลังก์เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาด

นี่คือหมายเลข 1 จากการจัดอันดับทีมลูกหนังชายทั่วโลกของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า แม้จะเป็นชาติลูกหนังที่เต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีมาโดยตลอด แต่ เบลเยี่ยม ยังไม่เคยได้สัมผัสแชมป์รายการใหญ่แม้แต่ครั้งเดียว โดยเคยทำผลงานได้ดีที่สุดจากการเข้าป้ายรองแชมป์ยูโร 1980 ส่วนในยุคปัจจุบันอยู่ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ และมีดาวเตะชื่อเสียงให้เลือกใช้งานเต็มไปหมดเลย แม้จะต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ เอเดน อาซาร์ กับ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเหมือนกันเลยก็ตาม จึงพร้อมออกไปตามล่าความสำเร็จเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้ได้

เดนมาร์ก ขอย้อนรอยตำนานบทเก่า

เคยสร้างตำนานช็อกโลกเมื่อ 29 ปีที่แล้ว เพราะสามารถผงาดคว้าแชมป์ยูโร 1992 ได้แบบพลิกล็อก แม้จะออกสตาร์ทในศึกยูโร 2020 ด้วยความพ่ายแพ้ในรอบแบ่งกลุ่มถึง 2 เกมซ้อน และต้องเสีย คริสเตียน อีริคเซ่น จอมทัพตัวเก่งจากอาการวูบหมดสติคาสนามตั้งแต่นัดแรก แต่ เดนมาร์ก ในฐานะแชมป์ 1 สมัย ซึ่งอยู่ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ ยังคงร่วมใจกันสู้จนได้รับการยกให้เป็นทีมม้ามืดที่มีโอกาสไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้เหมือนกัน เพื่อลุ้นย้อนรอยตำนานบทเก่าที่เคยทำได้มาก่อนนั่นเอง

สาธารณรัฐเช็ก ลุ้นไปให้สุดทางเสียที

ในอดีตคือ เชโกสโลวะเกีย ซึ่งเคยคว้าแชมป์หนึ่งสมัยจากศึกยูโร 1976 แต่หลังจากที่มีการแยกประเทศในช่วงต้นทศวรรษ 90 สาธารณรัฐเช็ก เคยไปถึงนัดชิงชนะเลิศในศึกยูโรมาแล้วหนึ่งครั้ง แต่ทำได้ดีที่สุดเพียงรองแชมป์จากศึกยูโร 1996 แม้จะมีชื่อชั้นเป็นรองหลายๆ ชาติลูกหนังที่ได้ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2020 แต่กุนซือ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ พร้อมนำทีมบ้านเกิดไปให้สุดทางเพื่อลุ้นคว้าแชมป์เป็นสมัยแรกให้ได้นับตั้งแต่ที่มีการแยกประเทศออกมา โดยมี พาทริค ชิก เป็นกองหน้าตัวความหวังจากการสอยตาข่ายจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแล้วถึง 4 ประตู

สวิตเซอร์แลนด์ อย่ามองข้ามเด็ดขาด

โดนปรามาสว่าเป็นทีมไม้ประดับในทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาโดยตลอด เพราะจอดป้ายเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มอยู่เสมอ แม้จะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้อยู่เป็นประจำเลยก็ตาม แต่ สวิตเซอร์แลนด์ ได้พิสูจน์ฝีเท้าในศึกยูโร 2020 ให้ได้เห็นกันแล้วว่าไม่ได้มาแบบเล่นๆ หลังทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์เลยด้วย โดยกุนซือ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช ยังคงมี ฮาริส เซเฟโรวิช เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า จึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้ทุกทีมได้รู้ว่าอย่าประมาทพวกเขาเป็นอันขาด หากไม่อย่าน้ำตาตกเหมือนอย่าง ฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ในรอบที่แล้ว

ยูเครน ลุ้นไปให้ไกลกว่ารอบ 8 ทีม

ทะลุเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์เลย ทำให้ ยูเครน เป็นอีกหนึ่งทีมที่ไม่ควรถูกมองข้ามอีกต่อไป โดยกุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ หวังพาทีมบ้านเกิดไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่เคยทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มมาโดยตลอด เพราะมีจุดเด่นในเรื่องของเกมตอบโต้เร็วที่จ่ายบอลกันได้อย่างแม่นยำ และมี โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เป็นตัวชูโรงด้วย จึงพร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ได้ทุกเมื่อเลยเหมือนกัน    

เปิดโผ 4 สนามชิงชัยรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ในส่วนของสังเวียนแข้งที่จะใช้แข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายมีทั้งหมด 4 สนามใน 4 เมืองใหญ่ของ 4 ประเทศ โดยทั้งหมดไม่ได้เป็นสนามแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่เคยใช้ฟาดแข้งในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้วทั้งหมดเลย

สตาดิโอ โอลิมปิโก้, กรุงโรม ประเทศอิตาลี

เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค, เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี 

โอลิมปิก สเตเดี้ยม, กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

ส่องทีมเต็งแชมป์ยูโร2020

Sky Bet บริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายของเกาะอังกฤษ ได้ออกอัตราต่อรองทีมเต็งแชมป์ยูโร 2020 ในช่วงหลังจากจบรอบ 16 ทีมสุดท้าย เพราะได้เห็นหน้าตาของ 8 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่พวกชาติลูกหนังระดับยักษ์ใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส, โปรตุเกส รวมถึง เยอรมนี ต้องเก็บของกลับบ้านกันไปหมดแล้ว จึงยกให้ อังกฤษ เป็นเต็งหนึ่งแบบเดี่ยวๆ ด้วยราคา 2 ต่อ 1 หรือแทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน ส่วนเต็ง 2 เป็นของ สเปน ตามมาด้วยเต็ง 3 นั่นก็คือ อิตาลี ส่วนเต็ง 4 ได้แก่ เบลเยี่ยม นั่นเอง

2/1 : อังกฤษ

3/1 : สเปน

4/1 : อิตาลี

7/1 : เบลเยี่ยม

9/1 : เดนมาร์ก

22/1 : สวิตเซอร์แลนด์

25/1 : สาธารณรัฐเช็ก

33/1 : ยูเครน

โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย

โปรแกรมแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีม

2 ก.ค. เบลเยี่ยม พบ อิตาลี ที่ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค, เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เวลา 23.00 น.

2 ก.ค. สวิตเซอร์แลนด์ พบ สเปน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เวลา 02.00 น.

3 ก.ค. สาธารณรัฐเช็ก พบ เดนมาร์ก ที่โอลิมปิก สเตเดี้ยม, กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เวลา 23.00 น.

3 ก.ค. ยูเครน พบ อังกฤษ ที่สตาดิโอ โอลิมปิโก้, กรุงโรม ประเทศอิตาลี เวลา 02.00 น.

เช็กผลบอลยูโร 2020 ที่นี่

คอมเมนต์

Leave a Comment